นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลแอปพลิเคชัน ดร. เจล (Privacy Policy)
บริษัท ด็อกเตอร์ เจล จำกัด (Doctor Jel Co.,Ltd.) ในฐานะผู้พัฒนาและให้บริการระบบแอปพลิเคชัน Homie More (“เรา”) ตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อรับผลิตภัณฑ์และบริการของเรา โดยเรามีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ ดังนั้น เราจึงมีจุดประสงค์ประกาศนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้ง เกี่ยวกับ สิทธิและหน้าที่ รวมถึงเงื่อนไขต่าง ๆ อันเกี่ยวเนื่องกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูล ส่วนบุคคลที่บริษัท จะดำเนินการให้ผู้ใช้บริการในฐานะผู้ใช้บริการรับทราบ เราให้ความเชื่อมั่นแก่ท่านว่า ข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดของท่านเป็นข้อมูลที่ทางเราให้ความสำคัญ โดยเรารับประกันจะปกป้องและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลด้วยมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสมอย่างดีที่สุด และข้อมูลทั้งหมดของท่านจะถูกเก็บรักษาเป็นความลับ โดยเราขอแนะนำให้ท่านโปรดอ่านและทำความเข้าใจนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ เพื่อรับทราบวัตถุประสงค์ที่เราได้เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตลอดจนสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลต่อท่าน โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
ข้อ 1. ขอบเขตการใช้บังคับ
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ฉบับนี้ มีขอบเขตการบังคับใช้ครอบคลุมการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดที่ดำเนินการโดยเรา รวมถึงพันธมิตรทางธุรกิจไม่ว่าจะเป็นบริษัทผู้ให้บริการด้านการบริหารนิติบุคคล หรือผู้ประกอบกิจการเกี่ยวกับการให้บริการต่าง ๆ รวมไปถึงบุคคลใด ๆ ซึ่งล่วงรู้ข้อมูลส่วนบุคคลเนื่องจากเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของเรา ซึ่งจะต้องปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ และตามกรอบที่กฎหมายกำหนด
ข้อ 2. คำจำกัดความ
“นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” (Privacy Policy) หมายความว่า นโยบาย ที่เราจัดทำเพื่อแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบถึงการประมวลผลข้อมูลของเรา และรายละเอียดต่าง ๆ ตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ได้กำหนดไว้
“ข้อมูลส่วนบุคคล” (Personal Data) หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรม อย่างไรก็ดี ข้อมูลต่อไปนี้ไม่ใช่ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ข้อมูลสำหรับการติดต่อทางธุรกิจที่ไม่ได้ระบุถึงตัวบุคคล อาทิ ชื่อบริษัท ที่อยู่ของบริษัท เลขทะเบียนนิติบุคคลของบริษัท หมายเลขโทรศัพท์ของที่ทำงาน อีเมลแอดเดรส (email address) ที่ใช้ในการทำงาน เช่น info@company.co.th ข้อมูลนิรนาม (Anonymous Data) หรือข้อมูลแฝงที่ถูกทำให้ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้อีกโดยวิธีการทางเทคนิค (Pseudonymous Data) ข้อมูลผู้ถึงแก่กรรม เป็นต้น
“ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” (Sensitive data) หมายความว่า ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนา หรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่ งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด ทั้งนี้ ต่อไปในนโยบายฉบับนี้ หากไม่มีการกล่าวโดยเฉพาะเจาะจงจะเรียก “ข้อมูลส่วนบุคคล” และ “ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” ที่เกี่ยวกับผู้ใช้บริการข้างต้นให้รวมกันเรียกว่า “ข้อมูลส่วนบุคคล”
“การประมวลผล” (Processing) หมายความว่า การดำเนินการใด ๆ กับข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การเก็บรวบรวม บันทึก จัดระบบ ทำโครงสร้าง เก็บรักษา ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง กู้คืน ใช้ เปิดเผย ส่งต่อ เผยแพร่ โอน ผสมเข้าด้วยกัน ลบ ทำลาย
“เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” (Data Subject) หมายความว่า บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
“ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” (Data Controller) หมายความว่า บุคคลหรือนิติบุคคลอื่นซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
“ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” (Data Processor) หมายความว่า บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่ง หรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บุคคลหรือนิติบุคคลที่ดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
“คุกกี้” (Cookies) หมายความว่า ไฟล์คอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก ที่จะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวที่จำเป็นลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการติดต่อสื่อสารซึ่งจะมีผลในขณะที่เข้าใช้งานระบบเว็บไซต์เท่านั้น
ข้อ 3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวม
3.1 เราอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้
3.1.1 ข้อมูลส่วนตัว ได้แก่ คำนำหน้าชื่อ ชื่อและนามสกุลจริง เลขที่ประจำตัวประชาชน รูปภาพบัตรประชาชน รูปถ่าย และข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ เพื่อใช้ในการสมัครสมาชิก และการยืนยันตัวตน เป็นต้น
3.1.2 รายละเอียดในการติดต่อ ได้แก่ หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ อีเมล เพื่อใช้สำหรับการสมัครสมาชิก ที่อยู่สำหรับการจัดส่งสินค้า และเป็นข้อมูลสำหรับการติดต่อ เป็นต้น
3.1.3 ข้อมูลทางการตลาดและการติดต่อสื่อสาร เช่น ความต้องการของท่านในการรับข้อมูลทางการตลาดจากเรา พันธมิตรทางธุรกิจ หรือบริษัทอื่น ๆ และรูปแบบการติดต่อสื่อสารที่ต้องการ รายการสินค้าที่สนใจ บันทึกการแจ้งเตือนเกี่ยวกับโปรโมชั่นสินค้าหรือบริการ และข้อมูลทางการตลาดและการ ติดต่อสื่อสารอื่น ๆ เป็นต้น
3.1.4 รายละเอียดโปรไฟล์ เช่น ชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และรูปโปรไฟล์ เป็นต้น
3.2 เราไม่มีนโยบายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data) จากท่าน อย่างไรก็ดี หากมีกรณีที่เราจำเป็นจะต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว เราจะขอความยินยอมจากท่านโดยชัดแจ้งก่อนการดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว หรือเว้นแต่มีเหตุตามกฎหมายให้ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลดังกล่าวได้โดยไม่ต้องขอความยินยอม
3.3 ท่านตกลงจะไม่ส่งมอบข้อมูลใด ๆ ที่ไม่ถูกต้องและ/หรือที่ทำให้เข้าใจผิดแก่เรา และท่านตกลงจะแจ้งให้เราทราบถึงความไม่ถูกต้อง หรือการเปลี่ยนแปลงของข้อมูลนั้น เราสงวนสิทธิ์ที่จะขอให้ส่งมอบเอกสารเพิ่มเติมอื่นใดเพื่อการยืนยันข้อมูลที่คุณได้ให้แก่เราตามที่เราเห็นสมควร
3.4 หากท่านได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามแก่เรา (เช่น ข้อมูลส่วนตัว และข้อมูลเพื่อการติดต่ออื่นเพื่อติดต่อในกรณีฉุกเฉินของท่านกับเรา ท่านรับรองว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่ถูกต้องตามกฎหมาย และกรุณาแจ้งบุคคลเหล่านั้นให้ทราบถึงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ และ/หรือขอความยินยอมจากบุคคลเหล่านั้น
ข้อ 4. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวม
เราเก็บรวบรวมหรือได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่าง ๆ จากแหล่งข้อมูลดังต่อไปนี้
4.1 การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรงในช่องทางให้บริการต่าง ๆ เช่น
4.1.1 เมื่อท่านได้เข้าถึงและ/หรือใช้บริการแอปพลิเคชันของเรา หรือลงทะเบียนสมัครบัญชีผู้ใช้งานกับเรา
4.1.2 เมื่อท่านส่งแบบฟอร์ม รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง แบบฟอร์มการสมัครหรือแบบฟอร์มอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์และบริการของเรา ไม่ว่าจะแบบออนไลน์หรือแบบฟอร์มเป็นเอกสาร
4.1.3 เมื่อท่านติดต่อกับเรา เช่น ผ่านทางโทรศัพท์ (ซึ่งจะได้รับการบันทึก) แพลตฟอร์มสื่อทางสังคม และอีเมลแอดเดรส รวมถึงเมื่อท่านได้ติดต่อกับตัวแทนให้บริการลูกค้า (customer service agents)
4.1.4 เมื่อท่านใช้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือติดต่อกับเราผ่านแพลตฟอร์ม เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือใช้บริการ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการใช้ผ่านคุกกี้ ซึ่งเราอาจปรับใช้เมื่อท่านใช้หรือเข้าถึงแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์
4.1.5 เมื่อท่านได้อนุญาตโดยผ่านอุปกรณ์ของท่าน ให้เปิดเผยข้อมูลใด ๆ แก่แอปพลิเคชันหรือแพลตฟอร์มของเรา
4.1.6 เมื่อท่านเชื่อมโยงบัญชีผู้ใช้บริการผ่านแพลตฟอร์มของเรากับบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media Account) หรือบัญชีผู้ใช้งานอื่น ๆ ของท่าน
4.1.7 เมื่อท่านดำเนินธุรกรรมผ่านบริการของเรา
4.1.8 เมื่อท่านให้ความคิดเห็นหรือคำร้องเรียนแก่เรา
4.1.9 ข้อมูลที่เราเก็บรวบรวมจากการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าใช้งานเว็บไซต์ ผลิตภัณฑ์หรือบริการอื่น ๆ ตามสัญญาหรือตามพันธกิจ เช่น การติดตามพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน ผลิตภัณฑ์หรือบริการของเราด้วยการใช้คุกกี้ (Cookies) หรือจากซอฟต์แวร์บนอุปกรณ์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น
4.1.10 เมื่อท่านส่งข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้แก่เราด้วยเหตุผลใดก็ตาม เป็นต้น
4.2 การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่น
4.2.1 การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่น เช่น การได้รับข้อมูลจากผู้ให้บริการที่เราว่าจ้างให้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลแทน พันธมิตรทางธุรกิจของเรา หน่วยงานที่เราให้บริการ (รวมทั้ง เว็บไซต์ ตลอดจนชื่อผู้ใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ของหน่วยงานดังกล่าว) และจากบุคคลภายนอกอื่นใด (เช่น ผู้ที่แนะนำลูกค้า ผู้แทนของท่าน ผู้ค้า หรือบุคคลอื่นใดซึ่งได้รับมอบอำนาจจากท่าน)
4.2.2 แอปพลิเคชันของเราใช้ Google Analytics ซึ่งเป็นบริการวิเคราะห์เว็บที่ให้บริการโดย Google, Inc. (“Google”) Google Analytics ใช้คุกกี้ ซึ่งเป็นไฟล์ข้อความที่เก็บไว้ในคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์การใช้งานที่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตของคุณ เพื่อช่วยแอปพลิเคชันวิเคราะห์วิธีการใช้งานของผู้ใช้ ข้อมูลที่คุกกี้สร้างขึ้นเกี่ยวกับการใช้งานแอปพลิเคชัน (รวมถึงที่อยู่ IP ของคุณ) จะถูกส่งและจัดเก็บบนเซิร์ฟเวอร์โดย Google ในประเทศสหรัฐอเมริกา Google จะใช้ข้อมูลนี้เพื่อประเมินการใช้งานแอปพลิเคชัน รวบรวมรายงานเกี่ยวกับกิจกรรมที่เกิดขึ้นในแอปพลิเคชันสำหรับผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน และให้บริการด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมของแอปพลิเคชัน และการใช้งานอินเทอร์เน็ต Google ยังอาจส่งข้อมูลนี้ให้แก่บุคคลภายนอกตามที่กฎหมายได้กำหนดไว้ หรือเมื่อบุคคลภายนอกดังกล่าวดำเนินการประมวลผลข้อมูลในนามของ Google
ข้อ 5. คุณภาพของข้อมูล
เรามีการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการดำเนินงานตามวัตถุประสงค์และพันธกิจของเรา ระหว่างท่านกับเรา โดยข้อมูลที่ได้ทำการจัดเก็บนั้น เราได้คำนึงถึงความถูกต้อง ครบถ้วน และความเป็นปัจจุบันของข้อมูล
ข้อ 6. วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูล
เราอาจเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
6.1 เพื่อตอบสนองต่อการใช้บริการบนแอปพลิเคชันของเรา โดยเราใช้ข้อมูลส่วนตัว และข้อมูลการติดต่อ เพื่อสร้างบัญชีผู้ใช้งานและยืนยัน
6.2 เพื่อตอบสนองต่อการใช้งาน และความเหมาะสมของคุณ โดยเราจะใช้การเชื่อมต่อ การตั้งค่า และรูปแบบของพฤติกรรมในการใช้งานของคุณ และกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนแอปพลิเคชันของเรา รวมไปถึงการจัดทำแบบสำรวจ และการศึกษาวิจัย ตามที่เราได้รับอนุญาตให้จัดเก็บ นำมาประมวลผลวิเคราะห์ และพัฒนาให้แอปพลิเคชันมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น 6.3 เพื่อตรวจสอบและยืนยันบัญชี และกิจกรรมต่าง ๆ ที่คุณเข้าร่วมบนแอปพลิเคชันของเรา รวมไปถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่ง เช่น ที่อยู่อาศัยหรือที่ทำงาน หรือสถานที่ที่คุณชอบไป ที่อยู่ IP เพื่อเก็บเป็นประวัติ ซึ่งจะมีผลดีในกรณีที่อาจจะเกิดเหตุที่ส่งผลต่อความไม่ปลอดภัยต่อข้อมูล ทรัพย์สิน หรือชีวิตได้ เช่น การที่บุคคลปลอมแปลงหรือแอบอ้างเข้ามาใช้แอปพลิเคชัน โดยอ้างว่าเป็นสมาชิกในครอบครัวของคุณ การเก็บประวัติของข้อมูลที่อยู่ อาจมีส่วนช่วยในการสืบสวน และป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับคุณได้
6.4 เพื่อติดต่อสื่อสารกับคุณ เกี่ยวกับแอปพลิเคชันและการบริการของเรา และบอกให้คุณทราบถึงนโยบายและข้อกำหนดต่าง ๆ ของเราเมื่อมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่า คุณสามารถใช้บริการของเราอย่างปลอดภัย และเต็มประสิทธิภาพมากที่สุด
ข้อ 7. การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
เราจะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยจะกระทำโดยมีวัตถุประสงค์ ขอบเขต และใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมาย โปร่งใส และเป็นธรรม ภายใต้ฐานการประมวลผล ดังต่อไปนี้
7.1 การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ให้กระทำได้ภายใต้วัตถุประสงค์ และเพียงเท่าที่จำเป็นตามกรอบวัตถุประสงค์ หรือ เพื่อประโยชน์ที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม โดยต้องแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบก่อนหรือในขณะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ถึงรายละเอียด ดังต่อไปนี้
7.1.1 วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม
7.1.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่ทำการเก็บรวบรวม
7.1.3 กรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือสัญญา หรือเพื่อ เข้าทำสัญญา โดยต้องแจ้งถึงผลกระทบที่เป็นไปได้จากการไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบ
7.1.4 ประเภทของบุคคลหรือหน่วยงานซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมอาจถูกเปิดเผย
7.1.5 สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
7.2 การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
เราจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่พิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อท่าน การดำเนินธุรกิจของเรา เพื่อให้ท่านได้รับบริการที่ดีจากการดำเนินธุรกิจของเรา ทั้งนี้ เราจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามกฎหมายและกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องหรือเพื่อปรับปรุงบริการให้ประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งให้ท่านทราบตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ เพื่อพัฒนามาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศในการบริหารความเสี่ยง ตรวจจับ ป้องกันกิจกรรมที่มีแนวโน้มละเมิดกฎหมาย ระเบียบการใช้งานที่เกี่ยวข้องหรือข้อตกลง เงื่อนไขการใช้แอปพลิเคชันของเรา รวมถึงเพื่อติดต่อท่านผ่านทางอีเมลแอดเดรส หรือผ่านช่องทางใด ๆ เพื่อสอบถาม หรือแจ้งให้ท่านทราบ หรือตรวจสอบและยืนยันข้อมูล หรือสำรวจความคิดเห็น หรือแจ้งข้อมูลข่าวสารอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ และการให้บริการของเราตามที่จำเป็น
7.3 การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
7.3.1 เราจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลที่สาม เพื่อประโยชน์ในการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการในด้านต่าง ๆ แก่ท่าน หรืออำนวยความสะดวกอื่นใดแก่ท่านได้อย่างถูกต้อง ต่อเนื่อง เพื่อให้ท่านสามารถทำธุรกรรม หรือกิจกรรมที่ท่านประสงค์ได้สำเร็จลุล่วง และเกิดประโยชน์สูงสุด โดยการเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคล ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์ที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม และต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลที่ให้ไว้ก่อนหรือในขณะนั้น เว้นแต่ในกรณีดังต่อไปนี้ ไม่จำเป็นต้องขอความยินยอม
(1) เพื่อประโยชน์เกี่ยวกับการวางแผนหรือการสถิติหรือสำมะโนต่าง ๆ ของหน่วยงานของรัฐ
(2) เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกายหรือสุขภาพของบุคคล
(3) เป็นข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะโดยชอบด้วยกฎหมาย
(4) เพื่อประโยชน์แก่การสืบสวนสอบสวนของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย หรือในการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล
(5) เป็นการปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด หรือตามคำสั่งศาล
7.3.2 เราอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลที่สาม ไม่ว่าจะมีสภาพเป็นนิติบุคคล หรือบุคคลธรรมดา ภายใต้ขอบเขตที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ซึ่งอาจรวมถึง
(1) บริษัทในเครือ คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ และ/หรือ ผู้ให้บริการภายนอก เพื่อให้บริการในการนำเสนอสิทธิประโยชน์และบริการอื่น ๆ ของเรา แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการพัฒนาปรับปรุง ผลิตภัณฑ์ หรือบริการของเรา เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การประมวลผลข้อมูล การให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการจัดเตรียมโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง การพัฒนาแพลตฟอร์มบริการลูกค้า การส่งอีเมล การพัฒนาเว็บไซต์ การพัฒนาแอปพลิเคชันบนมือถือ และการรับประกันภัยต่อ การสำรวจความพึงพอใจและการทำวิจัย การบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าโดยจะมีการทำสัญญารักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นความลับ กรณีนิติบุคคลจะต้องมีมาตรฐานด้านความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ
(2) หน่วยงานรัฐบาล รัฐบาล หรือองค์กรอื่นตามกฎหมาย เพื่อเป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย คำสั่งคำร้องขอ เพื่อการประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามกฎหมาย
ทั้งนี้ เราจะกำหนดให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลมีมาตรการปกป้องข้อมูลของท่านอย่างเหมาะสมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบ
ข้อ 8. ข้อจำกัดในการใช้และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
8.1 เราจะใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ ตามความยินยอมของท่านโดยจะต้องเป็นการใช้ตามวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม จัดเก็บ ข้อมูลของเราเท่านั้น เราจะกำกับดูแลพนักงาน เจ้าหน้าที่หรือผู้ปฏิบัติงานของเรามิให้ใช้และ/หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลหรือเปิดเผยต่อบุคคลภายนอก เว้นแต่
8.1.1 เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ประมวลกฎหมายแพ่งและอาญา ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งและอาญา เป็นต้น
8.1.2 เป็นไปเพื่อประโยชน์แก่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรือการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล
8.1.3 เพื่อประโยชน์ของท่าน และการขอความยินยอมไม่อาจกระทำได้ในเวลานั้น
8.1.4 เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเรา หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นที่ไม่ใช่เรา
8.1.5 เป็นการจำเป็นเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
8.1.6 เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญาหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญานั้น
8.1.7 เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุ เพื่อประโยชน์ สาธารณะ หรือเพื่อการศึกษา วิจัย การจัดทำสถิติ ซึ่งได้จัดให้มีมาตรการป้องกันที่เหมาะสม
8.2 เราอาจใช้บริการสารสนเทศของผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลภายนอกเพื่อให้ดำเนินการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งผู้ให้บริการนั้นจะต้องมีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัย โดยห้ามดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนอกเหนือจากที่เรากำหนด
ข้อ 9.การให้บริการโดยบุคคลที่สามหรือผู้ให้บริการช่วง
เราอาจมีการมอบหมายหรือจัดซื้อจัดจ้างบุคคลที่สาม (ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล) ให้ทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทนหรือในนามของเรา ซึ่งบุคคลที่สามดังกล่าวอาจเสนอบริการในลักษณะต่าง ๆ เช่น การเป็นผู้ดูแล (Hosting) รับงานบริการช่วง (Outsourcing) หรือเป็นผู้ให้บริการคลาวด์ (Cloud computing service/provider) หรือเป็นงานในลักษณะการจ้างทำของในรูปแบบอื่น
การมอบหมายให้บุคคลที่สามทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น เราจะจัดให้มีข้อตกลงระบุสิทธิและหน้าที่ของเราในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและของบุคคลที่เรามอบหมายในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงกำหนดรายละเอียดประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่เรามอบหมายให้ประมวลผล รวมถึงวัตถุประสงค์ ขอบเขตในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและข้อตกลง อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีหน้าที่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามขอบเขตที่ระบุในข้อตกลงและตามคำสั่งของเราเท่านั้นโดยไม่สามารถประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์อื่นได้
ในกรณีที่ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีการมอบหมายผู้ให้บริการช่วง (ผู้ประมวลผลช่วง) เพื่อทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทนหรือในนามของผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้ เราจะกำกับให้ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจัดให้มีเอกสารข้อตกลงระหว่างผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลกับผู้ประมวลผลช่วง ในรูปแบบและมาตรฐานที่ไม่ต่ำกว่าข้อตกลงระหว่างเรากับผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อ 10. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ
เราอาจมีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบริษัทในเครือหรือบุคคลอื่นในต่างประเทศ หรือไปยังผู้รับข้อมูลอื่นซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจตามปกติของเรา เช่น การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปเก็บไว้บน Server/Cloud ในประเทศต่าง ๆ ในกรณีแอปพลิเคชันของเราใช้บริการบริการคลาวด์ (Cloud computing service/provider) ของ Google ซึ่งมีเซิร์ฟเวอร์ในประเทศสหรัฐอเมริกา เราจึงจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา หรือเป็นการกระทำตามสัญญาระหว่างเรากับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ของท่านหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญา หรือเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่น เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเป็นการจำเป็นเพื่อดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ
กรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรฐานเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไม่เพียงพอ เราจะดูแลการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และจะดำเนินการให้มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เห็นว่าจำเป็นและเหมาะสมสอดคล้องกับมาตรฐานการรักษาความลับ เช่น มีข้อตกลงรักษาความลับกับผู้รับข้อมูลในประเทศดังกล่าว หรือในกรณีที่ผู้รับข้อมูลเป็นบริษัทในเครือกิจการ/ธุรกิจเดียวกัน เราอาจเลือกใช้วิธีการดำเนินการให้มีนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับการตรวจสอบและรับรองจากผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องและจะดำเนินการให้การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบริษัทในเครือกิจการ/ธุรกิจเดียวกันที่อยู่ต่างประเทศเป็นไปตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแทนการดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนดไว้ก็ได้
ข้อ 11. การเก็บรักษา และระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
เราจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตามระยะเวลาที่จำเป็นในระหว่างที่ท่านเป็นสมาชิก หรือยังคงใช้บริการของเรา หรือตลอดระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ ซึ่งอาจจำเป็นต้องเก็บรักษาไว้ต่อไปภายหลังจากนั้นหากมีกฎหมายกำหนดหรืออนุญาตไว้ เช่น จัดเก็บไว้ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน จัดเก็บไว้เพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์ตรวจสอบกรณีอาจเกิดข้อพิพาทภายในอายุความตามที่กฎหมายกำหนดเป็นระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี ทั้งนี้ เราจะทำการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุถึงตัวตนของท่านได้เมื่อหมดความจำเป็นหรือสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว
ข้อ 12. มาตรการรักษาความปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล
ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเรา และเราได้นำมาตรการรักษาความปลอดภัยทางเทคนิคและการบริหารที่เหมาะสมมาใช้เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลจากการสูญหาย การเข้าถึงการใช้หรือการเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาต การใช้งานในทางที่ผิด การดัดแปลงเปลี่ยนแปลง และการทำลายโดยใช้เทคโนโลยีและขั้นตอนการรักษาความปลอดภัย เช่น การเข้ารหัสและการจำกัดการเข้าถึง เพื่อให้มั่นใจว่าบุคคลที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและบุคคลเหล่านี้ได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับความสำคัญของการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล เราจัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้ที่ไม่มีสิทธิหรือหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลนั้น และจะจัดให้มีการทบทวนมาตรการดังกล่าว เมื่อมีความจำเป็นหรือเมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม ทั้งนี้เราจะไม่รับผิดชอบในกรณีความเสียหายใด ๆ อันเกิดจากการใช้หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อบุคคลที่สาม รวมถึงการละเลย หรือเพิกเฉยการออกจากระบบ (Log out) ที่เจ้าของข้อมูลได้เข้าใช้งานโดยการกระทำของเจ้าของข้อมูลหรือบุคคลอื่นซึ่งได้รับอนุญาตจากเจ้าของข้อมูล
ข้อ 13. สิทธิของเจ้าของข้อมูล
13.1 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอมให้เราประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
13.2 สิทธิในการเข้าถึง และรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เราได้เก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย
13.3 สิทธิในการขอให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
13.4 สิทธิในการคัดค้าน การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
13.5 สิทธิในการขอให้ลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งไม่อาจระบุตัวตนได้
13.6 สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
13.7 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
13.8 สิทธิที่จะร้องเรียนในกรณีที่ท่านเห็นว่าถูกเรา หรือบริษัท หรือเจ้าหน้าที่ หรือตัวแทนของบริษัทละเมิดสิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562
การร้องขอใด ๆ เพื่อการใช้สิทธิของท่านตามที่กล่าวข้างต้น ในเบื้องต้นสามารถกระทำผ่านแพตฟอร์มการให้บริการของเรา และ/หรือแอปพลิเคชันที่ม่านใช้บริการ โดยต้องกระทำเป็นลายลักษณ์อักษร และเราจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดที่จะดำเนินการภายในระยะเวลาที่สมเหตุสมผล และไม่เกินระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยบริษัทจะปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายที่เกี่ยวกับสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล การใช้สิทธิของท่านตามข้อ 13.1 อาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่เราอาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นของท่านได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น หากเราปฏิเสธคำขอข้างต้น เราจะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบด้วย เราขอสงวนสิทธิ์ในการคิดค่าบริการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องและจำเป็นต่อการเข้าดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูล ส่วนบุคคลตามที่ท่านร้องขอ
ข้อ 14. การใช้คุกกี้ (Cookies)
“คุกกี้” (Cookies) คือ ข้อมูลที่เราส่งไปที่เครื่องคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ผ่านเว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าใช้บริการเว็บไซต์ หรือช่องทางออนไลน์อื่น ๆ ของเรา และติดตั้งข้อมูลดังกล่าวไว้ในระบบของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยหากมีการใช้คุกกี้ก็จะทำให้เว็บไซต์ของเรา สามารถบันทึกหรือจดจำข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้จนกว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะออกจากเว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) หรือจนกว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะทำการลบคุกกี้นั้นเสีย หรือไม่อนุญาตให้คุกกี้นั้นทำงานอีกต่อไป
การใช้คุกกี้จะทำให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้รับความสะดวกสบายในการใช้บริการผ่านเว็บไซต์ของเรา มากขึ้น เพราะคุกกี้จะช่วยจดจำเว็บไซต์ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแวะหรือเยี่ยมชม ทั้งนี้เราอาจขอความยินยอมจากท่านในการนำข้อมูลที่คุกกี้ได้บันทึกหรือเก็บรวบรวมไว้ไปใช้ในกรณี ดังต่อไปนี้
14.1 เพื่อให้ระบบแสดงข้อมูลหรืออนุญาตให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าถึงบริการบางอย่างได้
14.2 เพื่อให้เราสามารถนำเสนอข่าวสาร หรือประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับเรา และบริการที่เป็นประโยชน์ต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละรายตามความเหมาะสม
14.3 เพื่อใช้เป็นข้อมูลเบื้องต้นในการปรับปรุงเนื้อหาและบริการของเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับความต้องการของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมากที่สุด
14.4 เพื่อใช้ในการวิเคราะห์เชิงสถิติ หรือในกิจกรรมอื่น ๆ ของเรา
ข้อ 15. การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
เราจะทำการพิจารณาทบทวนนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นประจำเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติ และกฎหมาย ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้หากมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เราจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่สำคัญใด ๆ พร้อมกับนโยบายฉบับปรับปรุง ผ่านช่องทางที่เหมาะสม เราขอแนะนำให้ท่านตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงนโยบาย ฉบับนี้เป็นระยะ ๆ
ข้อ 16. สิทธิเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์ของบุคคลภายนอก
ในการใช้บริการแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ของเรา อาจมีลิงค์เชื่อมต่อไปยังเครือข่ายสังคมออนไลน์แพลตฟอร์ม และเว็บไซต์อื่น ๆ ที่มีบุคคลภายนอกเป็นผู้ดำเนินการ เราพยายามที่จะเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์ที่มีมาตรฐานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถรับผิดชอบในเนื้อหาหรือมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์อื่น ๆ นั้น เว้นแต่จะกำหนดไว้เป็นประการอื่น ข้อมูลส่วนบุคคลใดที่ท่านให้แก่เว็บไซต์ของบุคคลภายนอกนั้นจะถูกเก็บรวบรวมโดยบุคคลดังกล่าวและอยู่ภายใต้ประกาศ / นโยบายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกดังกล่าว (หากมี) ในกรณีเช่นว่านี้ เราไม่อาจควบคุมและไม่อาจรับผิดชอบในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณโดยบุคคลภายนอกดังกล่าว
ข้อ 17. ช่องทางการติดต่อ
ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัยหรือข้อเสนอแนะเกี่ยวกับนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือการปฏิบัติตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ เรายินดีตอบข้อสงสัย และรับฟังข้อเสนอแนะของท่าน โดยท่านสามารถติดต่อกับเราได้ตามข้อมูลการติดต่อดังนี้ หากท่านเห็นว่าการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่ เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 ท่านมีสิทธิที่จะร้องเรียนไปยังเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
รายละเอียดของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller)
ผู้ให้บริการ : บริษัท ด็อกเตอร์ เจล จำกัด (Doctor Jel Co.,Ltd.)
ผู้ควบคุมข้อมวลส่วนบุคคล : ภก.ดร.ปัณณวิชญ์ โชติเตชธรรมมณี
ที่ตั้ง : 87 หมู่ 2 ต.บ่อพลับ อ.เมือง จ.นครปฐม
หมายเลขโทรศัพท์ : 094-1945639
อีเมล : contact.drjel@gmail.com
ไลน์ ออฟฟิสเชียล (Line official) : @zignature
ข้อ 18. กฎหมายที่ใช้บังคับ
ท่านรับทราบและตกลงให้นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ อยู่ภายใต้การบังคับและตีความตามกฎหมายไทย และศาลไทยเป็นผู้มีอำนาจในการพิจารณาข้อพิพาทใดที่อาจเกิดขึ้น
ประกาศใช้ ณ วันที่ 1 มีนาคม 2566
(บริษัท ด็อกเตอร์ เจล จำกัด (Doctor Jel Co.,Ltd.)